Hard Side & Soft Side

ตลอดชีวิตการทำงาน มีกิจกรรมหนึ่งกิจกรรมที่ตนเองรู้สึกได้ว่าเป็นกิจกรรมที่เกิดขึ้นบ่อยมากๆ

กับตนเอง นั่นคือ การอบรม ซึ่งรวมทั้งการเข้าร่วมอบรมในฐานะผู้เข้ารับการอบรมและการเป็นวิทยากรผู้ทำการอบรมให้ความรู้และก็ยังคงเป็นกิจกรรมที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ส่วนตัวรู้สึกสนุกและตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้เข้าร่วมในกิจกรรมการอบรม เพราะไม่ว่าจะเป็นการเข้าร่วมในบทบาทอะไร ก็รู้สึกได้ว่าทำให้ตนเองเองได้รับการพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง

แต่ในพักหลังมานี้เพิ่งได้มีเวลาสังเกตุตัวเองว่า หลักสูตรที่ได้เข้าร่วมอบรม หรือ หัวข้อที่ตนเองให้ความสนใจ เริ่มเปลี่ยนแปลงไป รวมถึงก็ได้ยินคำ 2 คำที่แบ่งประเภทหลักสูตร ออกเป็น Hard Side กับ Soft Side

– Hard Side หมายถึง ความรู้ด้านทฤษฎี การบริหาร การจัดการต่างๆ

– Soft Side หมายถึง ความรู้เกี่ยวกับด้านจิตใจหรือจิตวิญญาณ (Spiritual)

*อาจารย์ ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญแบ่งความรู้เป็น Hard Side กับ Soft Side

จากการที่ได้มีการแบ่งประเภทหลักสูตร ออกเป็น 2 ประเภทข้างต้น ตนเองก็พบว่าในช่วง 2-3 ปีหลังมานี้ เริ่มให้ความสนใจ กับหลักสูตรด้าน Soft Side เพิ่มมากขึ้น หลังจากที่กว่า 15 ปีที่ผ่านมา มักจะเป็นการอบรมด้าน Hard Side เป็นส่วนมาก และจากการสังเกตุก็พบว่าไม่เพียงตนเองเท่านั้นที่เริ่มให้ความสนใจและความสำคัญกับหลักสูตรด้าน Soft Side เพิ่มมากขึ้น แต่พบว่าองค์กรใหญ่ หลายๆ องค์กรก็ได้เริ่มให้ความสำคัญ ในการพัฒนาบุคคลากรในองค์กรในด้าน Soft Side เพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกัน เพราะที่ผ่านมาองค์กรส่วนใหญ่มักจะมุ่งเน้นการพัฒนาด้าน Hard Side เน้นการเติมองค์ความรู้ (Knowledge) หรือ พัฒนาทักษะ (Skill) จนละเลยสิ่งสำคัญที่อยู่ลึกๆ ข้างในตัวตนของคนเรา ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนให้คนเราตัดสินใจ และ ลงมือทำอะไร หรือ

ไม่ทำอะไร

คนส่วนมากมักจะโหยหาความสำเร็จและต่างก็ต้องการได้เคล็ดลับความสำเร็จ อยากได้ วิธีการ (How to) ทางลัด (Shortcut) สู่ความสำเร็จ ซึ่งเป็นด้าน Hard Side แต่จะมีสักกี่คนที่ได้เรียนรู้ ผ่านการอบรม ได้วิธีการ แล้วนำกลับมาใช้พัฒนาตนเอง/องค์กร ให้เกิดความสำเร็จได้ตามที่ตั้งใจไว้ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในยุคนี้สมัยนี้ มีหนังสือ How to มากมาย วางขายกันให้เกลื่อนตามแผงหนังสือ จากหลากหลาย Guru ผู้ประสบความสำเร็จ

ได้เขียนหนังสือตีแผ่วิธีการในการที่จะทำให้เกิดผลสำเร็จ แถมยังเป็น ยุคที่คนเราสามารถเข้าถึงองค์ความรู้

ที่มีมากมายในโลกโซเชียล แต่ก็ยังเห็นน้อยคนที่จะประสบความสำเร็จจากการได้เข้าถึง ได้รับรู้ องค์ความรู้นั้นๆ จึงทำให้เกิดคำถามที่ว่า แค่เพียง ความรู้ด้านทฤษฎี จากทางด้าน Hard Side คงยังไม่พอ แถมน่าจะยังไม่ใช่

สิ่งที่ส่งผลทำให้คนเกิดการเปลี่ยนแปลง และ จากประสบการณ์ของตัวเอง ก็พบว่า การพัฒนาด้าน Soft Side คือการพัฒนาจากส่วนที่อยู่ลึกข้างในตนเอง กลับเป็นด้านที่สำคัญ ในการที่จะส่งผลให้คนเกิดการเปลี่ยนแปลง

คิดตัดสินใจและลงมือกระทำ ให้เกิดผลสำเร็จ

และนี่คงจะเป็นคำตอบที่ว่า เหตุใด ปัจจุบันนี้ คนและหลายองค์กร ถึงเริ่มให้ความสำคัญกับการพัฒนาในด้าน Soft Side กันเพิ่มมากขึ้น

ครั้งหน้า จะมาคุยต่อ เรื่อง ตัวขับเคลื่อนให้คนเราตัดสินใจและลงมือทำอะไร หรือ ไม่ทำอะไร ละกันนะครับ