Coach My Life

ก่อนที่จะลงมือเขียนบทความวันนี้ ก็ผุดคำถามที่ใครหลายคนมักจะถามผมถึงที่มาของการมีพลังลุกขึ้นมาทำโน่นนี่ หรือ คำถามที่มีต่อการพัฒนาและเติบโตอย่างก้าวกระโดดของตัวผมเอง ยอมรับว่าทีแรก ตัวเองก็ไม่ค่อยจะรู้สึกเปลี่ยนแปลงเท่าไหร่ แต่พอมีคนพูดถึง มีคนถามถึงเข้ามาบ่อยขึ้นๆ ก็ถึงได้มีเวลามานั่งพิจารณาตัวเอง พิจารณาว่าเห็นความเปลี่ยนแปลงอะไรในตัวเรา เห็นการเติบโตของตัวเอง เห็นสิ่งต่างๆ มากมายที่ตัวเองได้ลงมือทำไปในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา สิ่งที่พอจะสรุปได้ชัดเจนมากที่สุด จนเป็นคำตอบให้กับตัวเอง และ เป็นคำตอบให้กับคนที่ถามกัน ก็คือ กระบวนการโค้ชชิ่ง เป็นกระบวนการที่ดึงเอาศักยภาพของตัวผมเอง ที่เดิมก็อาจจะไม่เคยคิดว่าเราจะกล้าลุกขึ้นมาทำสิ่งต่างๆ เหล่านี้ หรืออาจจะไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมีศักยภาพ มีความเชื่อมั่นว่าจะมีความสามารถที่จะทำอะไรต่อมิอะไร … ที่ผ่านมาอาจจะไม่เคยได้ทำงานกับเป้าหมายในชีวิตของตนเองอย่างจริงๆ จังๆ ไม่เคยที่จะกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนและมีพลังดึงดูดให้ เราลุกขึ้นมาลงมือทำในทุกๆ วัน เพื่อเดินไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ … ได้กลับเข้าไปทำงานกับส่วนที่ซ่อนอยู่ข้างในตนเอง เพื่อที่จะได้เข้าใจ pattern ของตัวเองมากขึ้น ดึงเอาส่วนที่เป็นพรสวรรค์ หรือ คุณสมบัติเด่นของตนเองออกมาขับเคลื่อนชีวิต เพราะตั้งแต่ที่ได้เรียนรู้กระบวนการโค้ช ได้มีคำพูดของ โค้ช ได้บอกเราว่า ให้เอาตัวเองลงมา ในกระบวนการ เพราะหากเพียงแค่ มาเรียนรู้เรื่องของโค้ชชิ่ง ก็จะได้เพียงแค่ Knowledge กลับไป ซึ่งก็อาจจะเป็นแค่ 10% เท่านั้น แต่ถ้าเมื่อไหร่ เราเอาตัวเองลงมาในกระบวนการโค้ชชิ่ง รวมถึงการได้รับการโค้ช จะทำให้เราสามารถเพิ่มเติมในส่วนของอีก 90% ที่เหลือ และจะเกิดความเข้าใจอย่างชัดแจง รวมถึงจะได้เห็นผลการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดของตัวเองผ่านกระบวนการโค้ชชิ่ง สำหรับตัวเองแล้ว รู้สึกชอบนิยามของ Coaching ที่มีผู้ให้คำนิยามไว้ว่าคือ ” The Most Powerful Force for CHANGE on the Planet ” ซึ่งส่วนตัวแล้วรู้สึกเช่นนั้นจริงๆ เพราะมันได้ผ่านกระบวนการที่พิสูจน์มาแล้วกับตัวเอง เป็นกระบวนการที่ ดึงเอาศักยภาพ(ที่มีอยู่แล้ว)ของตนเอง ออกมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในการสร้างการเปลี่ยนแปลงจนเห็นเป็นผลลัพธ์ที่ทรงพลังและเป็นที่ประจักษ์แก่ใครต่อใคร

นอกจากการโค้ชจะเป็นเรื่องของกระบวนการที่พาตัวเราเองกลับเข้าไปทำงานกับสิ่งที่ซ่อนอยู่ในตัวเองแล้ว อีกสิ่งสำคัญที่ทำให้ตัวเองเกิดการเปลี่ยนแปลง คือ การที่เราได้รับการโค้ช จากบรรดาโค้ชหลายๆ ท่าน หรือแม้แต่การที่ตัวผมเอง ได้ฝึกฝนการทำหน้าที่เป็นโค้ชตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ก็ทำให้เราเกิดการพัฒนาตนเองไปในทุกครั้งที่มี session การโค้ช เพราะ ในระหว่างที่เราเป็น โค้ชชี่ เราเองก็จะได้พบกับ powerful question คำถามที่ทรงพลัง ที่ทำให้เราคิดได้ ทำให้เราเกิด aha moment มีคำตอบ มีแนวทางให้กับตัวเอง มีการ Shift การเปลี่ยนแปลงทางความคิด และ นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงตัวเองในที่สุด อยากจะขอยืนยันว่า การที่เราได้มีโอกาสได้รับการโค้ช เป็น โอกาสที่ดีมากๆ สำหรับเรา ในการที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลง การพัฒนาตัวเองไปสู่จุดที่ดีขึ้น เพราะปกติแล้ว สมอง ของคนเรา ฉลาด และมักจะคุ้นเคยกับการทำงานในระดับ conscious รู้ตัว จึงอาจจะไม่เคยได้รับอนุญาตให้ตั้งคำถามแบบนั้นกับตัวเอง และเมื่อมีโค้ชมาตั้งคำถามบางคำถามกับเรา เรามักจะเกิดอาการ ปิ๊งแว้บ!! เออ…เนาะ เราไม่เคยคิด หรือ ตั้งคำถามเช่นนี้กับตัวเองมาก่อน ซึ่งนี่เองจะเป็นจุดเริ่มของการสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับตัวเองในที่สุด

จนถึงตอนนี้ ส่วนตัวก็ยังขอยืนยันว่า ” The Most Powerful Force for CHANGE on the Planet ” การโค้ชเป็นศาสตร์ที่สร้างการเปลี่ยนแปลงที่ทรงพลังที่สุดบนโลกใบนี้ และ “Everybody Needs a Coach” ทุกคนต่างก็ต้องการโค้ช