Visualize Your Success

“จินตนาการ” สำคัญกว่า “ความรู้” จริงหรือ ?? บังเอิญ คำถามนี้ มันผ่านสายตา เข้ามาพอดี หลังจากที่นั่งอ่านบทความในอินเตอร์เน็ต จึงเกิดไอเดียมาเขียนบทความวันนี้ เกี่ยวกับ การจินตนาการ เพราะส่วนตัวแล้ว หลังจากที่เคยอ่านหนังสือ เคยได้ยินเรื่องราว หรือ คำถามที่ว่า “จินตนาการ” สำคัญกว่า “ความรู้” ก็ค่อนข้างเชื่อตามนั้น แต่ยิ่งพอมาได้เรียนรู้และลงมือทำงานกับตัวเองผ่านกระบวนการโค้ช ก็ยิ่งทำให้เชื่อมากยิ่งขึ้น เพราะได้เห็นถึงพลังของการจินตนาการ (The Power of Visualization) ว่ามีพลังอย่างน่าประหลาดใจจริงๆ

คงต้องขออ้างถึง หนังสือ เดอะท็อปซีเคร็ต ที่ได้มีการกล่าวถึงเรื่องของ “จินตนาการ” ว่ามีความสำคัญมากกว่า “ความรู้” ซึ่งผู้ที่ได้กล่าวคำพูดนี้ หาใช่ใครอื่นไม่ เขาผู้นั้น คือ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ซึ่งเขาได้พยายามอธิบายความลับสุดยอดนี้ ว่า “การค้นพบสิ่งมหัศจรรย์ทุกอย่างของเขา มาจากจินตนาการ และถ้าจะเทียบระหว่างความรู้ กับ จินตนาการ เขาบอกว่า จินตนาการสำคัญกว่า จินตนาการเป็นเชาว์ปัญญาขั้นสูงสุด และมันจะนำไปสู่การค้นพบสิ่งใหม่ๆได้อย่างไม่สิ้นสุด”

ถ้าเราไปถามศิลปินนักวาดภาพที่เก่งๆ ว่าทำไมถึงวาดภาพได้ขนาดนี้ เขาจะตอบไม่ได้ ทั้งๆที่ ภาพนั้นฝังอยู่ในใจตั้งแต่แรกแล้ว มือเขาเพียงแต่วาดไปตามความรู้สึกเท่านั้นเอง ดังตัวอย่าง ที่ผู้คนได้ถาม อัจฉริยะทางด้านศิลปะ มีเกลันเจโล (ไมเคิล แองเจโล) ว่าทำไมถึงแกะสลักรูปปั้นเดวิดได้งดงามมหัศจรรย์ปานนั้น … เขาตอบว่า “ตอนที่หินอ่อนก้อนใหญ่มาอยู่ตรงหน้า เขาเห็นรูปเดวิดอยู่ในหินก้อนนั้นแล้ว สิ่งที่ต้องทำคือสกัดส่วนที่ไม่ใช่เดวิดออกไป”

หรือแม้แต่ ในวงการกีฬา หลายๆ ท่านก็คงจะเคยได้ยิน เรื่องราวของ นักกอล์ฟชื่อดังระดับโลกคนนี้ นักข่าวถามไมเกอร์วูดส์ว่า เขามีหลักในการฝึกซ้อมตีกอล์ฟอย่างไร โดยเฉพาะ การตีโฮลอินวัน … ไทเกอร์วูดส์ตอบว่า เขาซ้อมการตีโฮลอินวันบ่อยมากจากจินตนาการ และเขารู้ว่ามันจะเป็นโฮลอินวันก่อนที่เขาจะตีลูกออกไปเสียอีก “ผมแค่จินตนาการว่าลูกมันลงหลุมไปก่อนแล้ว  จึงค่อยตีตามลงไป” 

รวมถึงสองอัจฉริยะแห่งวงการไอทีก็เช่นเดียวกัน นวตกรรมหรือผลิตภัณฑ์ใหม่ๆหลากหลายชนิดเกิดขึ้นมาจากจินตนาการของมนุษย์แทบทั้งสิ้น … ถ้าสตีฟ จอบส์ไม่มีจินตนาการและความเชื่อ เราก็คงจะไม่มี Ipod หรือ Iphone ในทุกวันนี้ 

บิล เกตส์ ก็เช่นกัน เขาจินตนาการถึงภาพของรูปต่างๆที่ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ แบบระบบปฏิบัติการวินโดว์สก่อน แล้วจึงค่อยศึกษารายละเอียด ของการคลิกย้อนกลับ จึงทำให้เรามีระบบปฏิบัติการที่มีชื่อว่าวินโดว์สใช้กันแพร่หลายจนถึงปัจจุบัน

ทั้งหมดนี้ น่าจะพอเป็นหลักฐานที่สนับสนุนและทำให้เห็นว่า การจินตนาการ มีพลังอย่างมากจริงๆ ในการทำให้เกิดผลสำเร็จ ดังเช่นตัวอย่างจากบุคคลที่มีชื่อเสียงและประสบความสำเร็จที่กล่าวถึงข้างต้น

จึงอยากเชิญชวนให้ทุกคน ให้ความสำคัญกับ การจินตนาการ เพราะถ้าหากคุณต้องการที่จะประสบความสำเร็จในชีวิต สิ่งแรกที่คุณต้องทำคือ การตั้งเป้าหมายแห่งความสำเร็จ จินตนาการ ภาพแห่งความสำเร็จ (Vision of Success) ของตนเองออกมาให้ชัด จินตนาการทุกสิ่งอย่างเสมือนว่ามันได้เกิดขึ้นแล้วกับคุณ สิ่งที่ยังไม่ต้องไปกังวลหรือไปคิดถึง คือ “วิธีการ” ที่จะทำให้ประสบความสำเร็จ เพราะเมื่อมันผ่านไปสักระยะหนึ่ง จิตใต้สำนึกของคุณก็จะเริ่มทำงาน มันจะค่อยๆสรรหาวิธีการให้คุณว่า คุณจะต้องทำอย่างไรถึงจะประสบความสำเร็จตามที่คุณต้องการ และที่สำคัญในการจินตนาการภาพแห่งความสำเร็จของคุณ อย่าลืมใส่ความรู้สึกเข้าไปด้วย ว่า ณ ตอนนั้นคุณรู้สึกอย่างไร ในที่สุดมันจะมีพลังมหัศจรรย์จากจิตใต้สำนึก มาขับดันให้คุณเกิดการหยั่งรู้โดยอัตโนมัติ