QUESTIONING

เคยมีคนได้กล่าวไว้ว่า อาวุธที่สำคัญ ของโค้ช คือ “คำถาม” เพราะหน้าที่ของโค้ช คือ การพาให้คนพัฒนาจากจุดหนึ่งไปสู่อีกจุดหนึ่ง ด้วยกระบวนการกระตุ้นให้คนได้มีมุมมองที่เปลี่ยนไป คิดได้ดีขึ้น คิดได้เก่งขึ้น รวมถึงดึงเอาศักยภาพที่มีอยู่แล้วในตัวเอง นำออกมาสร้างการเปลี่ยนแปลง เพื่อให้เค้าเป็นมากกว่าที่เค้าคิดว่าจะเป็นได้ ซึ่งกระบวนการกระตุ้น ให้คนคิด หรือ มีมุมมองที่เปลี่ยนไปจากเดิม ก็คือ “การถาม” นั่นเอง

การโค้ชด้วยคำถาม คือ กระบวนการที่โค้ชใช้คำถามในการอำนวยความคิดของโค้ชชี่ เพื่อทำให้เขาค้นพบคำตอบด้วยตัวเขาเอง เมื่อโค้ชชี่ เข้ามาพบโค้ชเพื่อสอบถาม ความเห็น ความคิด หรือคำชี้แนะ แทนที่โค้ชจะบอกหรือให้คำตอบ โค้ชจะเลือกใช้วิธีตั้งคำถามเพื่อให้เขาคิด

สาเหตุที่กระบวนการโค้ชได้ให้ความสำคัญ กับการใช้คำถามในการโค้ช ก็เพราะว่า มนุษย์ทุกคนล้วนมีศักยภาพอยู่แล้วเต็มเปี่ยมในตัวเอง เพียงแต่สมองของเราโดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของ Conscious(จิตสำนึก) มักจะปิดกั้นศักยภาพ มีเงื่อนไข มีข้อแม้ โน่นนี่ ต่างๆ นาๆ ซึ่งล้วนแต่เป็นข้อจำกัดที่ไม่สามารถนำพามนุษย์ผู้นั้นพัฒนาไปสู่จุดที่ดีขึ้น และอีกเหตุผลสำคัญที่การโค้ชให้ความสำคัญกับการใช้คำถาม เพราะผลงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ได้พิสูจน์ให้เป็นประจักษ์พยายานแล้ว ว่า ไม่มีสมองใดในโลกเหมือนกัน สมองของคนแต่ละคนก็จะมีเอกลักษณ์ รูปแบบที่แตกต่างกัน ซึ่งส่งผลให้รูปแบบความคิดของคนแต่ละคนก็แตกต่างกันออกไป แม้แต่ฝาแฝดสองคนก็ยังมีสมองที่ต่างกัน มีความคิด และรวมถึงพฤติกรรมที่ต่างกัน และด้วยจากการที่แต่ละคนมีสมอง มีความคิดที่แตกต่างกันนี้เอง เรามักจะพบว่าหลายต่อหลายครั้ง ความคิด แนวคิด วิธีการที่เคยได้ผลของคนหนึ่งในการแก้ปัญหา อาจจะไม่ได้ผลสำหรับอีกคนหนึ่ง นี่คงถือได้ว่าเป็นการตอกย้ำอีกครั้ง ว่าการที่โค้ช ไม่บอก ไม่แนะนำ แต่กลับเลือกใช้วิธีการตั้งคำถามแทน เพราะนอกจากจะคิดว่าวิธีการที่จะแนะนำให้นั้นมีความเป็นไปได้ว่ามันอาจจะไม่ได้ผลกับโค้ชชี่ อีกเหตุผลสำคัญก็คือการที่เราเชื่อว่าทุกคนล้วนมีศักยภาพอยู่แล้วในตัวเอง เชื่อว่าโค้ชชี่มีศักยภาพที่จะคิด ตัดสินใจ สร้างการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาตัวเองไปสู่จุดที่ดีขึ้น

และจากการที่คนเราค้นพบคำตอบได้ด้วยตัวเองนั้น ก็จะทำให้เกิดการพัฒนาความมั่นใจและพัฒนาวุฒิภาวะให้สูงขึ้นด้วย จะว่าไปแล้ว คนเรามักจะไม่ค่อยชอบให้คนอื่นมาบอกให้ตัวเองคิดแบบโน้นแบบนี้ หรือบอกให้ทำอย่างโน้นอย่างนี้ คนเรามักจะรู้สึกดีและมีความสุขกว่า ถ้าคิดและตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง ปี 2005 ที่ NYU (New York University) ได้มีการทดลอง ทำการโค้ช ในเครื่องวัดการทำงานของสมอง fMRI ซึ่งพบว่า ระหว่างการโค้ช ในช่วงที่โค้ชชี่คิดคำตอบออกมาได้หลังจากถูกโค้ชถามนั้น สมองจะทำการสร้างคลื่นแกมม่าออกมาอย่างเข้มข้น โดยที่คลื่นแกมม่านี้จะมีผลทำให้คนเราเกิดความรู้สึกกระตือรือร้น และมีความสุขในการทำงาน นี่เองคงเป็นข้อมูลที่สนับสนุนว่า เวลาที่เราคิดอะไรได้ด้วยตัวเอง คิดแก้ปัญหาได้ด้วยตัวเอง เราจะเกิดความรู้สึกดีและมีความสุขทุกครั้ง

จากเหตุผลข้างต้นน่าจะพอทำให้เกิดความเข้าใจและเห็นประโยชน์ของการโค้ชด้วยคำถาม แต่ก็ถือเป็นเรื่องแปลกที่แม้ว่าคนเราจะรู้สึกดีและมีความสุขทุกครั้ง หากคิดอะไรได้ด้วยตัวเอง แต่ก็จะมีอีกหลายต่อหลายครั้ง ที่หลายคนกลับไม่ได้ให้ความสำคัญการคิดตั้งคำถามกับตัวเอง หรือ แม้แต่จะคิดหาคำตอบให้กับตัวเองด้วยตัวเอง กลับวิ่งหาคำแนะนำ คำบอก คำตอบจากคนอื่น ซึ่งเอาเข้าจริงๆ ก็มักจะไม่ได้ทำตามคำแนะนำจากคนอื่นกันซักเท่าไหร่ เพราะลึกๆ เชื่อได้ว่า แต่ละคนก็ยังคงจะรู้สึกดีกว่า ภาคภูมิใจกว่า หากคิดหาคำตอบได้ด้วยตัวเอง

หากต้องการเป็นคนที่คิดเก่งขึ้น มีความสุขมากขึ้น มีความภูมิใจในตัวเอง … “การถาม” จะเป็นจุดเริ่มต้นพาคุณไปสู่การคิดเก่งขึ้น มีความสุขมากขึ้น และภูมิใจในตัวเองมากขึ้น