Non-Judgemental

จากสัปดาห์ที่แล้ว ได้ชวนกันคุยเกี่ยวกับเรื่อง กรอบความคิด (Mindset) หรือ ความเชื่อที่มีผลต่อพฤติกรรม ซึ่งเป็นส่วนสำคัญอย่างมากต่อการพัฒนาศักยภาพของคนเราทุกคน และได้แนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกับ กรอบความคิดดีๆ ที่มีชื่อว่า “The map is not the territory” หรือ แปลเป็นไทยได้ว่า “แผนที่ไม่ใช่อาณาเขต” เป็นกรอบความคิดแรก ที่ทำให้คุณได้รู้ว่า คุณสามารถเป็นได้มากกว่าที่คุณคิด

ในสัปดาห์นี้อยากจะแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกับ อีกหนึ่งกรอบความคิด เป็นกรอบความคิดที่สอง ที่มีชื่อว่า “Everyone is doing the best they can with the resources they have available.” หรือ แปลเป็นไทยได้ว่า “ทุกคนทำดีที่สุดเท่าที่ทรัพยากรที่มีอยู่” สำหรับผมแล้ว การที่ได้รู้จักกรอบความคิดที่สองนี้ รวมถึงมีกรอบความคิดนี้บรรจุไว้ในหัว มันช่วยทำให้ตัวผมเองลดการตัดสินคนลงไปได้อย่างมาก และการที่ลดการตัดสินผู้อื่นลงไปได้ สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาก็คือการที่เกิดความรู้สึกโล่งและเบาสบายกับตัวเอง เพราะเรามักจะไม่ค่อยรู้ตัวว่าในการใช้ชีวิตของเราในแต่ละวัน เรามักจะเผลอ ตัดสินผู้อื่น อยู่ตลอดเวลา …. ชอบ ไม่ชอบ ควร ไม่ควร พบเจอผู้คน หรือ เหตุการณ์ ก็มักจะเผลอตัดสิน ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินในแง่บวก หรือ แง่ลบ ลองนึกตามดู เพื่อให้เห็นว่าเราตัดสินตลอดเวลาจริงๆ นะครับ นึกถึงเหตุการณ์ หากมีคนแปลกหน้าเดินผ่านมา แล้วคุณเห็นคนเดินหน้ามุ่ย คุณอาจจะเผลอคิดขึ้นมาว่า “สงสัยทะเลาะกับแฟนมาแน่ๆ เลย” …. ซึ่งมันเป็นเช่นนั้นจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ เค้าอาจเพิ่งได้รับข่าวร้ายอะไรบางอย่างมา หรือ อาจจะไม่มีอะไรเลย หน้าตาเค้าอาจจะเป็นอย่างนั้นเองก็เป็นได้ เราไม่มีทางรู้ได้หรอกว่า คนตรงหน้าเราน่ะ ผ่านอะไรมาบ้าง … เช่นเดียวกัน กับที่คนอื่นก็คงไม่รู้หรอก ว่าเรานั้น ต้องผ่านอะไรมาบ้าง ดังนั้นแล้ว การทำตัวเป็นผู้พิพากษา ตัดสินทันทีที่สายตามองเห็นอะไร มันก็ดูไม่ค่อยจะยุติธรรมสักเท่าไหร่

อธิบายมายาวพอสมควร บางท่านอาจจะเกิดคำถามว่าแล้วมันเกี่ยวอะไรกับ “ทุกคนทำดีที่สุดเท่าที่ทรัพยากรที่มีอยู่” คำว่า “ทรัพยากร” (resource) ในที่นี้ หมายถึง ความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ การอบรมเลี้ยงดู การดูแลสอนสั่ง ฯลฯ แล้วมันเกี่ยวข้องยังไงกับการตัดสินผู้อื่น? … ลองสังเกตุดูนะครับ ว่าคุณเคยตั้งคำถามเหล่านี้ กันบ้างหรือไม่?

ทำไม ถึงทำไม่ได้ ?

ทำไม ถึงไม่เข้าใจ ?

ทำไม ถึงคิดแบบนั้น ?

ทำไม ทำแบบนั้น ?

ทำไม ไม่เข้าใจ ?

ทำไม … ทำไม … ทำไม … และอีกสารพัดคำถาม “ทำไม” ที่เรามักจะเก่งที่จะคิดสร้างคำเพื่อมาตัดสินผู้อื่น

ถ้าหากคำตอบของคุณคือ ใช่ นั่นหมายความว่าคุณได้เผลอตัดสินผู้อื่นเข้าให้แล้ว แต่ถ้าหากคุณสร้างกรอบความคิดใหม่ขึ้นมา เพื่อทำความเข้าใจว่า ที่ผ่านมานั้น ทุกคนต่างก็ล้วนทำดีที่สุดเท่าที่เค้าจะคิดได้ เท่าที่เค้าจะมีความรู้ เท่าที่เค้าจะมีความสามารถ เท่าที่เค้าจะมีประสบการณ์ เท่าที่เค้าเคยได้รับการอบรมดูแลสอนสั่ง และแม้ว่าผลลัพธ์ที่ออกมานั้นอาจจะไม่เป็นที่ถูกใจ ไม่ตรงตามความต้องการ หรือ ไม่ตรงกับความคาดหวังของเรา กับความคิดที่ว่า “ทำไม (เค้า) ถึงทำไม่ได้ (เหมือนเรา)” เพราะหากว่า เค้า เหล่านั้น มีความรู้เท่าเรา มีความสามารถเหมือนเรา มีประสบการณ์เหมือนกันกับเรา และได้รับการอบรมดูแลสอนสั่งเช่นเดียวกันกับเรา เค้า ก็คงจะสามารถทำได้เหมือนๆ กับเรา … ซึ่งความเป็นจริงแล้วเราต่างก็รู้กันดีว่า คนเราแต่ละคนก็ย่อมมี ความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ และการอบรมดูแลสอนสั่งที่แตกต่างกัน จะให้ ทำได้เหมือนกัน เข้าใจเหมือนกัน คิดแบบเดียวกัน ก็คงจะไม่ใช่เรื่องง่าย

การที่เราเข้าใจความจริงข้อนี้แล้ว หรือ สร้างกรอบความคิดใหม่นี้ให้กับตัวเองแล้ว เชื่อได้ว่าคุณน่าจะลดการตัดสินผู้คน รวมถึงลดการตั้งคำถามที่เผลอตัดสิน ลงไปได้ไม่มากก็น้อย

ในเมื่อเราไม่ชอบให้คนอื่นมาตัดสินเรา เราเองก็ไม่ควรจะไปตัดสินคนอื่น … ในเมื่อเรายังไม่รู้จักคนที่เราจะตัดสินดีพอ เราเองก็ไม่ควรที่จะไปตัดสินเขาได้ และอีกประเด็นที่สำคัญ คือ ตัวเราเองก็ยังไม่สมบูรณ์ การตัดสินของเราก็อาจจะผิดพลาด เพราะตัวเรา(ผู้ตัดสิน) เป็นบุคคลที่ยังคงมีตำหนิ ดังนั้น การใช้ความเข้าใจของเรา (ซึ่งยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์) ในการตัดสินผู้อื่นจึงสามารถเกิดข้อผิดพลาดได้เช่นกัน