วันนี้อยากมาแบ่งปัน เรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับการเริ่มต้นใช้ทักษะการโค้ช ของผู้เข้าอบรมหลักสูตร Coaching 101: Foundation of Coachingรู้และเข้าใจกระบวนการโค้ช เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ทรงพลัง ที่เพิ่งจัดเสร็จสิ้นไปเมื่อเสาร์ที่ 18 และอาทิตย์ที่ 19 ตุลาคม ที่ผ่านมานี้ นอกจากบรรยากาศเรียนรู้ที่อบอุ่นและสนุกสนานแล้ว ยังได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในตนเองและการมีพลังของผู้เข้าอบรม ที่พร้อมจะออกไปสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับผู้คนรอบข้าง
ขอเริ่มจากเรื่องราวของผู้เข้าอบรมท่านแรก ดร.สาวคนเก่ง ที่เมื่อเสร็จสิ้นการอบรม ก็ต้องรีบออกจากห้องอบรมเพื่อไปปฏิบัติหน้าที่ อาจารย์ที่ปรึกษาให้กับนักศึกษาปริญญาโท ซึ่งมานั่งรออาจารย์ของเขา และจากคำบอกเล่าของ ดร.สาวคนเก่ง ถึง การที่ได้งัดเอาวิชา Coaching ออกมาใช้ทันทีหลังจากที่ก้าวเท้าออกจากห้องอบรม ผลลัพธ์ที่ได้จากการใช้ การโค้ชด้วยคำถาม และ GROW Model ปรากฏว่า ไม่เหนื่อยกับการคุยกับนักศึกษาคนนี้เหมือนแต่ก่อน เพราะที่ผ่านมารู้สึกว่า นักศึกษาคนนี้จะมาพร้อมกับปัญหาและรู้สึกเหนื่อยกับการสอนเขามาก รวมถึงค่อนข้างรู้สึกว่าเขา negative มา ตัวเองก็เลย negative กลับไป ทำให้ต้องคุยกันนานมาก และหาทางออกไม่ได้ แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปก็คือ การที่มีพลังความคิดบวก ส่งมอบพลังบวกให้กับนักศึกษา และเมื่อใช้ทักษะการโค้ชกับเขา ก็สามารถคุยกัน โดยใช้เวลาแป้บเดียว และเขาสามารถหาทางออกได้ด้วยตัวเอง มีความมั่นใจมากขึ้น มีแรงอยากทำวิทยานิพนธ์เพิ่มมากขึ้น พร้อมกับ แววตาที่เป็นประกายแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
และอีกหนึ่งเรื่องราวของผู้เข้าอบรม ที่เป็น ผู้บริหารสาวคนเก่ง ที่เมื่อได้ฟังผลจากการนำเอาวิชา Coaching มาใช้ทันทีหลังจากก้าวเท้าออกจากห้องอบรมของ ดร.สาวคนเก่ง ก็ได้บอกว่าจะเอาไปลองใช้กับน้องๆ ในที่ทำงานบ้าง และจากคำบอกเล่าของ ผู้บริหารสาวคนเก่ง ในวันแรกของการทำงาน เธอได้เริ่มต้นเอาวิชาโค้ช ไปใช้กับลูกน้องคนแรกส่วนการเงินทำงบประมาณ ซึ่งก่อนหน้านี้ลูกน้องคนนี้ มักจะมีคำตอบที่ว่า “หนู ไม่รู้ ไม่เคยทำ” แต่เมื่อ เธอ ได้เปลี่ยนมาใช้การโค้ชด้วยคำถาม กลับพบว่า ลูกน้อง สามารถคิดหาคำตอบได้ด้วยตัวเอง และมีความกล้าพูด สามารถแสดงความคิดเห็นในงานได้เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย ทำให้เธอรู้สึกว่าสามารถปล่อยให้ลูกน้องคนนี้ทำงานได้อย่างอิสระ มั่นใจในผลงานที่จะออกมา และทำให้เธอไม่ต้องหนักใจหรือกังวลใจเหมือนแต่ก่อน ตอนนี้ ก็รอเพียงการ present committeeอย่างเดียว
และผลลัพธ์จากการใช้วิชาโค้ชกับลูกน้องคนที่สอง ที่ปรับมาลองใช้คำถามอย่างเดียว ปรากฏว่า ได้ผล ลูกน้องคนนี้มีคำตอบเกี่ยวกับการทำงานให้กับตัวเอง กระตือรือร้นที่จะทำงานมากขึ้น และอีกสิ่งที่ ผู้บริหารสาวคนเก่ง ทำได้ดีก็คือ ไม่ลืมที่จะชื่นชมเหล่าบรรดาลูกน้องของเธอถึงคุณสมบัติดีๆ ของเขาเหล่านั้น
เรื่องราวของผู้เข้าอบรมทั้งสอง สามารถยืนยันได้ถึงพลังของกระบวนการโค้ช ที่แม้ว่าทั้งสองท่านจะออกตัวว่า ยังเป็นมือใหม่ ยังไม่แม่นในวิธีการ แต่สิ่งสำคัญที่ทำให้เกิดผลลัพธ์ดีๆ จากการโค้ช ของทั้งสองท่าน ก็คือ การที่ทั้งสองท่านมีความตั้งใจที่ดี มีกรอบความคิดที่ดี มีความปรารถนาดี ที่จะช่วย ลูกศิษย์ หรือ ลูกน้อง ให้คิดได้เก่งขึ้น เชื่อมั่นในศักยภาพของเขาเหล่านั้น และมีชุดคำถามดีๆ ก็สามารถดึงเอาศักยภาพออกมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ได้เป็นผลลัพธ์ที่แตกต่างออกไป และยิ่งมีการชื่นชมในคุณสมบัติดีๆ ของคนเหล่านั้น ก็ยิ่งเป็นการเพิ่มพลังให้รู้สึกกระตือรือร้นและอยากจะออกไปลงมือทำเพิ่มมากขึ้น
การโค้ช คือ ทักษะ หากเรียนรู้แล้วไม่ได้มีการนำไปใช้ ก็จะไม่เกิดประโยชน์แต่อย่างใด ดังนั้น กล้าที่จะนำไปใช้ เชื่อมั่นในกระบวนการโค้ช มีความปรารถนาดี ตัดซึ่งความตั้งใจที่จะทำให้ถูกต้อง ไม่กังวลกับความล้มเหลว เพราะไม่มีความล้มเหลวมีแต่การเรียนรู้ ขอเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่ตั้งใจนำเอาทักษะการโค้ชไปฝึกใช้ และหากมีคำถามหรืออยากมีเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับนำเอาทักษะการโค้ชไปฝึกใช้มาร่วมแบ่งปันก็ยินดีครับ