The GROW coaching model

เขียนบทความเกี่ยวกับโค้ชชิ่งมาก็หลายบทความแล้ว แต่เพิ่งรู้สึกตัวว่ายังไม่เคยได้กล่าวถึง โมเดลในการโค้ชที่สำคัญ เป็น coaching model ที่ถือได้ว่าเป็น model ที่โค้ชแทบทุกคนจะต้องหยิบมาใช้ในกระบวนการโค้ช ถือได้ว่าโค้ชทุกคนต่างก็เริ่มฝึกกระบวนการโค้ชด้วย model นี้ และถึงแม้จะพัฒนาเป็นโค้ชมืออาชีพแล้วก็ตาม เชื่อได้ว่า model นี้ก็ยังคงถูกหยิบขึ้นมาใช้อยู่สม่ำเสมอเพราะถือได้ว่าเป็น model ที่สามารถพาคนไปสู่ผลลัพธ์ที่ต้องการได้อย่างดีเยี่ยม

โมเดลในการโค้ชที่กำลังพูดถึงอยู่นี้ก็คือ GROW model เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการแก้ปัญหา หรือการทำให้บรรลุเป้าหมาย GROW model ได้ถูกพัฒนาขึ้นในประเทศอังกฤษ และเริ่มถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในวงการโค้ช ตั้งแต่ช่วงปี 1980-1990 เท่าที่ทราบยังไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่าใครเป็นผู้คิดค้นโมเดลการโค้ชที่มีประสิทธิภาพนี้เป็นคนแรก แต่ก็มีการพูดถึงกันว่า Sir John Whitmore ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกงานด้าน business coaching ได้เป็นผู้คิดค้นโมเดลนี้

The G.R.O.W model เป็นโมเดลในการตั้งคำถามเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ ซึ่งประกอบด้วย

1. G – Goal (เป้าหมาย) เริ่มต้นด้วยการถามคำถามที่เกี่ยวข้องกับเป้าหมายในการโค้ช ว่าเพื่อบรรลุเป้าหมายอะไร ตัวอย่างคำถามเช่น

– คุณต้องการจะได้อะไรจากการคุยกันในครั้งนี้ (เป้าหมายคืออะไร)

– อะไรคือสิ่งสำคัญที่สุดที่เราควรจะพูดถึงกัน

– ฉันอยากจะคุยกับคุณเรื่อง…ฉันอยากจะฟังความเห็นของคุณและแลกเปลี่ยนมุมมองของฉัน ตอนนี้เป็นเวลาที่เหมาะหรือไม่

2. R – Reality (สถานการณ์จริง) หลังจากนั้นจะตั้งคำถามเพื่อให้ได้ทราบถึงข้อมูลที่เจาะลึกถึงประเด็นที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้ เช่น

– มันเกิดอะไรขึ้นกับ…

– ความยุ่งยากคืออะไร

– คุณได้ลองวิธีไหนไปแล้วบ้าง

– อะไรคืออุปสรรคที่พบ

3. O – Options (ทางเลือก) ตั้งคำถามเพื่อให้ผู้ได้รับการโค้ช ได้คิดหาแนวทางเพื่อเป็นทางเลือกในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เช่น

– มีทางเลือกอะไรบ้าง

– ถ้าหากไม่มีข้อจำกัดอะไรเลย คุณคิดว่าจะทำอย่างไร

– คุณมีแนวคิดอะไรบ้าง

– ถ้ามีโอกาสจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น คุณอยากจะทำอะไรบ้าง

– คุณจะทำอย่างไรถ้า…ไม่ใช่ประเด็น (ปัญหา/อุปสรรค)

4. W – Wayforward/Will (สิ่งที่จะเกิดขึ้น) ตั้งคำถามเพื่อให้ผู้ได้รับการโค้ช บอกวิธีการ ขั้นตอน ระยะยะเวลา และแนวทางต่าง ๆ ที่จะกลับออกไปลงมือปฏิบัติ ด้วยตัวของตัวเอง เช่น

– คุณจะลงมือทำขั้นตอนอะไรบ้าง

– คุณคิดว่าจะทำเมื่อไร

– คุณต้องการสนับสนุนอะไรบ้าง

– คุณจะติดตามผลอีกเมื่อใด

ส่วนตัวแล้ว GROW model ไม่เพียงจะนำมาใช้ในกระบวนการโค้ชเท่านั้น ยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับอีกหลายๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสาร การทำงาน หรือแม้แต่เรื่องส่วนตัว ฯลฯ เพราะสามารถทำให้เห็นเป้าหมายและแนวทางในการปฏิบัติที่ชัดเจนเพื่อสู่การบรรลุเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ได้อย่างแท้จริง ถือได้ว่าเป็น model ที่มีประสิทธิภาพและมีประโยชน์มาก model นึงเลยทีเดียว